ยอดผาตัด แห่งขุนเขาเพชรบูรณ์
ถ้าเราจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ ณ ตอนนี้ต้องบอกเลยว่ามีมากมายเหลือเกินครับ แต่ละสถานที่นั้นก็สวยงามไม่แพ้กันเลย และก็สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยละครับ เพชรบูรณ์นั้นถือว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจาก กทม.มากนัก เพียงแค่ 400-500 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงก็มาถึงแล้วครับ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมากและความสวยงาม ความหลากหลายของที่นี้ จึงทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากมายเลยละครับ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีกลุ่มเราด้วยครับ และในครั้งนี้เราจะขอแนะนำสถานที่หนึ่ง ที่ต้องบอกเลยว่าชาวออฟโรดนั้นจะต้องรู้จักกันดีครับ เล้นทางนั้นอาจจะยากลำบากสักหน่อยครับ และถ้าเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้วนั้น ต้องขอบอกครับว่ายากที่หลายคนจะได้ขึ้นไปสัมผัส และถ้าอยากจะไปให้ถึง ทุกอย่างจะต้องพร้อมมากๆเลยครับ ทั้งคน ทั้งรถ และอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ แต่ที่กล่าวมานี้ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าจะขึ้นไปถึงได้ในช่วงหน้าฝนนี้ เราเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่งครับในช่วงหน้าฝน เส้นทางบางช่วงใจเกินร้อยบางทีมันก็ไม่สามารถผ่านตรงจุดนั้นไปได้ครับ อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆจึงสำคัญมาก ทำให้เรากลับมาคิดว่า ถ้าจะบุกช่วงหน้าฝนคงต้องเสริมเคี่ยวเล็บกันยกใหญ่ ช่วงหน้าฝนได้ผ่านพ้นไปแล้วครับ เราจึงหวนคิดถึงสถานที่แห่งนี้กันอีกครั้ง อยากจะขึ้นไปให้ถึงครับ ถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงที่สวยที่สุดในหน้าฝนก็ตามที ที่นี่ครับ
"ยอดผาตัด แห่งขุนเขาเพชรบูรณ์ " ขึ้นไปสัมผัสกันอีกครั้งพร้อมๆกันเลยนะครับ.....
4-5 เมษายน 2558 การเดินทางที่เรารอคอยและเรื่องเล่าสนุกๆก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่พลาดท่าเสียทีในครั้งที่แล้ว ช่วงดึกของวันที่ 3 พวกเราและเพื่อนๆ นัดรวมพลกันก่อนที่ปั้ม ปตท. แห่งหนึ่งแถวๆหนองแค โดยมีสมาชิกบางส่วนมารออยู่ก่อนแล้ว ในการเดินทางครั้งนี้เรามีเพื่อนร่วมทางทั้งหมด 15 คน พร้อมปีกนก 5 คัน และในตอนนี้ก็ตีหนึ่งกว่าๆแล้วครับ เมื่อสมาชิกพร้อมเราก็ออกเดินทางกันเลยครับ เรามาถึงหล่มสักช่วงเช้ามืด ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก ทำให้เรามาถึงเร็วพอสมควร ช่วงนี้ก็พักผ่อนเอาแรงกันไปก่อน ช่วงสายๆหน่อยค่อยออกไปหาอะไรทานกันที่ตลาดหล่มสัก
ก่อนมาในครั้งนี้เราได้สอบถามข้อมูลจากทางเจ้าถิ่นไว้บ้างแล้วครับ ซึ่งผมว่าหลายทานน่าจะรู้จักกันดีเลยครับ น้าเก่ง @Palachai นั้นเอง หลักๆก็จะเป็นเรื่องของเส้นทางและสภาพอากาศ โดยสภาพเส้นทางนั้นค่อนข้างดี ฝนทิ้งช่วงนานแล้วครับ จุดบางช่วงที่เคยเป็นร่องลึกๆ ลื่นๆ ตอนนี้ก็ได้มีการไถกลบจนเรียบ เห็นว่า 4x2 ขึ้นได้สบายเลยครับ และเนื่องจากข้างบนยอดผาตัดนั้นกลางวันจะค่อนข้างร้อนครับ ร่มไม้มีน้อย เราจึงเลือกที่จะขึ้นกันในช่วงเย็นหน่อยครับ
ประมาณบ่าย 3 โมงพวกเราก็เริ่มออกเดินทางขึ้นยอดผาตัดกันครับ เส้นทางจะเป็นยังไงนะ ต่างจากครั้งก่อนมากน้อยขนาดไหนคงต้องมาคอยดูกันครับ จากซุ้มประตูหมู่บ้านเข็กน้อย จะยังเป็นเส้นทางคอนกรีต ขับไปเรื่อยๆครับ ให้สังเกตุสะพานปูน ทางเข้าจะเลยสะพานปูนที่ 2 ไปนิดเดียวครับ จุดนี้จะเป็นทางโค้งซ้ายแต่เราจะต้องเลี้ยวขาว ดูรถสวนมาด้วยนะครับอย่าเพลินละ เมื่อเราเลี้ยวขวาเข้ามาแล้วก็จะเป็นทางลูกรังแล้วครับ ลัดเลอะข้ามเขาไปเรื่อยๆครับ มีจุดที่ต้องระวังบ้างครับ เป็นทางชันและก็มีร่องบ้าง หินบ้าง ต้องค่อยๆไต่ขึ้นไป ดันอย่างเดียวอาจเจ็บตัวได้ครับ ประมาณสักชั่วโมงนึงครับเราก็มาถึงลาน VIP แวะพักรถกันสักครู่ก่อนขึ้นเนินสุดท้าย เห็นว่าถ้าเป็นน่าฝน เดินขึ้นน่าจะถึงก่อนครับ 5555
ตอนนี้สมาชิกบางส่วนได้ขึ้นไปสำรวจเส้นทางกันก่อนครับ เพราะจากตรงนี้จะเป็นเนินสุดท้ายแล้ว ประมาณสัก 400 เมตรได้ เนินนี้ค่อนข้างชันเอามากๆ เลยต้องเช็คเส้นทางกันสักหน่อยครับเพื่อความปลอดภัย ไม่อยากจะคิดถึงช่วงหน้าฝน คงสนุกเร้าใจหน้าดูเลยละ พวกเราค่อยไต่ขึ้นไปทีละคันๆครับ เนินนี้ 4L ทำงานเต็มทีครับ และดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีครับ แต่..... ก็มีเหตุการณ์ให้ตื่นเต้นกันนิดหน่อย และสร้างสีสันให้ทริปนี้ได้ไม่น้อย รถจ่ายกับข้าวของเราหมดแรงซะก่อนครับ ยางอะไหล่ที่รัดมาทั้ง 4 เส้นรวมพลังกันแล้ว ยังมิสามารถต้านทานเนินตรงนี้ได้ พยายามหลายรอบแล้วก็ไม่สามารถกระโจนจากเนินนี้ขึ้นมาได้ งานนี้ V-Cross โดยกำนันเคน จึงต้องเป็นพระเอก ผูกผ้าขาวม้ากระชากรถจ่ายกับข้าวขึ้นมาอย่างง่ายดายเพียงเสี้ยววินาที โดยมองแทบไม่ทัน ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ เราทุกคนและปีกนกทุกคันก็สามารถขึ้นมาถึงยอดดอยได้สำเร็จครับ และถึงแม้อาจจะยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่สวยที่สุดของดีแห่งนี้ แต่มันก็ดีที่สุดที่พวกเราทำได้แล้วครับ...
ด้านบนนี้ถือว่าบรรยากาศค่อนข้างดีครับ มองไปเบื่องล่างได้สุดลูกหูลูกตามากๆ ถ้าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวคงสวยน่าดูเลยละครับ สงสัยงานนี้ต้องมีมาเยือนกันอีกแน่ๆ พวกเรารีบหาทำเลตั้งแค้มป์กันทันทีครับ เพราะตอนนี้ก็จะเกือบห้าโมงเย็นแล้ว เหล่าแม่ครัวก็เริ่มรังสรรค์อาหารแสนอร่อยกันทันทีเช่นกัน ลมข้างบนวันนี้ถือว่าไม่แรงมากครับซึ่งถือว่าโชคดี สะดวกในการตั้งแค้มป์และทำอาหาร ช่วงเย็นนี้อากาศกำลังดีครับไม่ร้อนอย่างที่คิด และเมื่อพลบค่ำอากาศก็เย็นลงทันทีครับต่ำที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 19 องศา ถือว่าเย็นสบายกำลังดีครับ คืนนี้ดาวบนดินเบื่องล่างสวยงามมากๆครับ พวกเราทานข้าวท่ามกลางหมู่ดาวเต็มพื้นดินเลยครับ ไม่ต้องอธิบายว่ามีความสุขมากแค่ไหน... กินข้าวนอกบ้านมันอร่อยจริงๆ
ช่วงเช้านี้เราลงกันเร็วหน่อยครับ เนื่องจากพอสายๆอากาศก็เร่ิมร้อนครับ ท่าจะอยู่ไม่ไหวครับ จึงรับทานข้าวแล้วก็รีบลงกันเลย ความสุขมันช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินครับ ไว้พบกันใหม่นะเพื่อนๆ
- ขอขอบคุณ น้าเก่ง @Palachai ที่รายงานสภาพอากาศและแนะนำเส้นทาง แต่เราก็ยังไม่ได้เจอกันสักทีนะครับ แฮ่ๆ
- ขอบคุณพื้นที่เล็กๆ ให้พวกเราได้ตั้งแค้มป์และทานข้าวกันอย่างแสนอร่อย
- ขอบคุณสมาชิกทั้ง 15 ท่าน ที่มาร่วมกันสร้างเรื่องราวและเรื่องเล่าต่างๆในทริปนี้
พี่หนุน ก๊อง โจ้ เก็บออม พี่เคน น้าหมู เจ๊กี๋ ช่างเอฟ ช่างโน แบงค์ โบ๊ท เมย์ พี่ต้น ตัวต่อ กบ
- ขอบคุณปีกนก 5 คัน ที่นำพาพวกเรามาพบเจอสิ่งสวยงามข้างบนนี้
เจ้าโชกุน Ford Ranger Wildtrak 4X4 3.2 ยก 2" ยาง BF All Torrent 285-75-16
เจ้านินจา Ford Ranger XLT 2.2 4X4 ยก 2" ยาง BF Mud KM2 265-75-16
รถจ่ายกับข้าว Toyota tiger 2.5 4x4 ใช้ยางอะไหล่ 4 เส้น อิอิอิ
หมูเถื่อน Toyota Vigo 3.0 4x4 ยก 2" ยาง maxxis Mud 265-75-16
กำนันเคน ISUSU D-MAX V-Cross 4x4 3.0 Ddi VGS ยก 2" ยาง BF Mud KM2 265-75-16
การเดินทางจากแยกแค้มสน ให้เราขับรถไปทางพิษณุโลก ทางหลวงหมายเลข 12 ไม่ไกลมากเราจะเจอป้ายทางเข้าหมู่บ้านเข็กน้อยอยู่ทางขวามือ จะเป็นทางโค้งซ้ายพอดี จากปากทางนี้ผ่านตัวหมู่บ้านเป็นทางลาดยางเข้าไปอีกประมาณสัก 1-2 กิโลเมตรให้สังเกตสะพานปูนที่ 2 ครับ ผ่านไปนิดเดียวจะเป็นทางโค้งซ้ายพอดี ทางเข้าจะอยู่ขวามือ จากนั้นก็จะเป็นทางลูกรังเข้าไปประมาณสัก 12 กิโลเมตร ก็จะถึงลานที่เรียกว่าลาน VIP และจาก VIP จะเป็นทางลาดชันขึ้นไปอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงลานยอดสูงสุดครับ..ผาตัดนั้นเอง... ด้านบนยอดผาตัดนี้จะมีลานกางเต็นท์ค่อนข้างกว้างมากๆครับ สามารถเลือกหาทำเลได้ตามใจชอบเลย แต่จะไม่มีห้องน้ำนะครับ ต้องวิ่งเข้าทุ่งอย่างเดียวเลยครับ เสบียงอาหารน้ำดื่มน้ำใช้ จัดเตรียมไปให้พร้อมครับ