กาลครั้งหนึ่งทำดี ณ ทีลอซู
ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านโข๊ะทะ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก
วันที่ 5-7 ธันวาคม 2558กาลครั้งหนึ่งทำดี กับการเดินทางครั้งใหม่ที่แสนยาวนานและห่างไกล อ.อุ้มผาง หลายคนที่ได้ยินชื่อนี้แล้ว คงจะพอนึกออกกับเส้นทางที่คดเคี้ยวนับพันโค้ง ลัดเลาะข้ามเนินเขานับไม่ถ้วนกลางป่าลึก และหลายๆคนก็คงจะมีประสบการณ์ต่างๆนาๆกับเส้นทางสายนี้ เราเองก็เช่นกัน
"กาลครั้งหนึ่งทำดี ณ ทีลอซู"นี่คือกิจกรรมแรกของเราในปีนี้ และเป็นกิจกรรมแรกของกลุ่มเราเช่นกัน ในปีนี่เรามุ่งเป้าไปที่น้ำตกทีลอซู น้ำตกที่ลือลั่นจากผู้คนที่เคยมาสัมผัสว่ายิ่งใหญ่สวยงามติดอันดับต้นๆของเมืองไทย ที่ซ่อนตัวและโอบกอดด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนลดหลั่นเป็นชั้นๆ ยืนมองกันตาตลึงเชียวหละ น้ำตกทีลอซู อยู่ในการดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก และในเส้นทางสายน้ำตกนี้ เราก็ได้พบกับข้อมูลของหมู่บ้านหนึ่งนั้นก็คือ บ้านโข๊ะทะ และมีศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวงด้วย หนึ่งเดียวในเส้นทางน้ำตกนี้ ทางกลุ่มไม่รอช้าที่จะประสานงานไปทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์ และคุณครูที่ดูแลโรงเรียนทันที และเราก็ได้รับการตอบรับจากคุณครู พวกเรา คุณครู และทางโรงเรียน จะร่วมกันทำสิ่งดีๆที่นี่กัน โดยมอบสนามเด็กเล่น อาหารกลางวันเด็ก และสิ่งของต่างๆอีกมากมาย ที่เราได้รับบริจาคโดยผู้ใหญ่ใจบุญทุกท่าน การเดินทางและเรื่องราวความประทับใจต่างๆ กับสิ่งดีๆกำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้แล้วครับ
ค่ำคืนวันที่ 4 ค่ำคืนที่หลายๆ คนมุ่งหน้าออกต่างจังหวัด รถราค่อนข้างหนาแน่นเป็นพิเศษกว่าปกติ ปั้มเกือบทุกปั้มที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเต็มไปด้วยผู้คนและรถยนต์ที่จอดเรียงรายเต็มลาน แทบไม่มีที่เดิน เราจึงเลี่ยงขยับออกมาสักหน่อย จริงๆก็ไม่หน่อยเท่าไหร่ โน้นเลยครับ ถนนสายเอเซีย บางประหัน อยุธยา ปั้มน้ำมันชื่อดังแห่งหนึ่ง นั่นคือจุดนัดพบของพวกเรา เพื่อนสมาชิกตอนนี้เริ่มทะยอยกันมาบ้างแล้วครับ หลังกระบะแต่ละคันอัดแน่นไปด้วยของบริจาคมากมายเท่าที่ขนขึ้นมาได้ รถบางคันของเยอะเกินไปจึงต้องมีการถ่ายเทกันนิดหน่อย ไปด้วยกันต้องช่วยๆกันครับ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนพอดี เพื่อนๆก็มากันครบแล้ว 44 ท่าน กับรถอีก 11 คัน งั้นเราออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ เส้นทางค่อนข้างยาวไกล..... ลูกหมูร้อยโล นำขบวนเลยจร้าๆ
กับการเดินทางตอนนี้ร่วมห้าร้อยกิโลเมตร เช้านี้เราอยู่ที่ปั้มแห่งหนึ่งก่อนถึง อ.พบพระ บนเส้นทางที่จะไป อ.อุ้มผาง ให้เพื่อนร่วมเดินทางเราได้พักผ่อน ยืดเส้นยืดสาย หรือจะนอนต่อก็เป็นความคิดที่ดี อิอิอิ. เอาเป็นว่าแล้วแต่เพื่อนๆสมาชิกสะดวกกันเลยละกันนะครับ ผมขอตัวละ....zzzZZZ ขอตัวเพลินไปหน่อยครับ ตอนนี้ปาเข้าไปแปดโมงแล้ว เพื่อนๆครับ เราออกเดินทางกันต่อดีกว่า ถนนช่วงต่อจากนี้ไป อ.อุ้มผาง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางที่คดเคี้ยวและเลี้ยวไปมาตามไหล่เขา ชวนให้เวียนหัวและผลข้างเคียงอีกหลายอย่าง เช่น อวก เป็นต้น ไม่รอช้าผมจัดยาก่อนเลย 2 เม็ด จบๆกันไป ของแบบนี้กันไว้ดีกว่าแก้ว่าไหมหละ.. ผมว่ายาออกฤทธิ์ละ พร้อมแล้วลุยกันเลย โค้งนับพันรออยู่ข้างหน้าแล้ว
ปล.โปรดเข้าโค้งด้วยความนิ่มนวล ป้องกันการเกิดผลข้างเคียงของเพื่อนสมาชิกที่นั่งข้างๆ ฟังคำเตือนจากเพื่อนร่วมทางที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกครั้ง การเดินทางช่วงนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับโค้งแล้วโค้งเล่า
บนเส้นทางถนนลอยฟ้าที่กล่าวขาน ซึ่งก็ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ กับบรรยากาศดีๆสองข้างทางที่มีให้เราได้สัมผัสอยู่ตลอด และเสียงของเพื่อนร่วมทางทั้ง 11 คัน ไม่ขาดสายผ่านวิทยุสือสาร ทั้งรถทั้งคนตอนนี้โยกไปโยกมา ขึ้นเขาลงเนินเอียงไปตามโค้งสลับไปมาชวนให้เวียนหัวซะจริงๆ
จากแม่สอดมาอุ้มผาง ตอนนี้เราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วกับเวลาประมาณชั่วโมงครึ่งกว่าๆ เราแวะพักรถบริเวณจุดพัก อุ้มเปี้ยม เพื่อนหลายๆคนหน้าตายังดูสดใส โค้งนับพันเหล่านั้นยังไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ หรืออาจมีบางคนหลุดลอดสายตาผมไป ตรงจุดนี้เป็นจุดพักครึ่งทางพอดี หลายคนเริ่มหิว ในมือแต่ละคนเริ่มมีของกินติดมาคนละนิดคนละหน่อยเป็นการรองท้อง ณ ตอนนี้ สตอเบอรี่น่าจะเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ ผมได้ลองแล้ว คำแรกรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลย เดี๋ยวตอนขาออกต้องซื้อติดมือกับไปสักหน่อยแล้วหละ
จากตรงจุดนี้ไป อ.อุ้มผาง น่าจะใช้เวลาอีกพอสมควร เราคงต้องเริ่มออกเดินทางกันต่อแล้ว เส้นทางต่อจากนี้ยังคงลัดเลาะไปตามไหล่เขาเช่นเคย ระหว่างทางอากาศเริ่มเย็นหมอกเริ่มลง ว่าแล้วก็เปิดกระจกรับลมหนาว สัมผัสบรรยากาศกับเส้นทางสายธรรมชาติกลางป่าลึกที่ไม่ง่ายนักจะได้พบเจอ แต่ในจังหวะที่เปิดกระจกและเก็บภาพอย่างเพลิดเพลินสบายใจนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับผม มันมีสิ่งแปลกปลอมกองเรียงรายอยู่บนถนนมากมาย บางจุดเราสัมผัสได้ถึงความสดใหม่ และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ บนเส้นทางที่คดเคี้ยวผู้ควบคุ้มรถคงยากที่จะหลบสิ่งเหล่านั้น ไหนจะทางแคบ ไหนจะรถสวน ไหนจะโค้ง โอเครเอาที่แจ๊คสบายใจ และแล้วจุดนัดพบของยางมัดและกองขี้วัวอุ่น ก็ได้มาสัมผัสกันทำให้เกิดปฏิกริยาทางกลศาสตร์ และชีวภาพ ขี้วัวเกิดการกระจายตัวอย่างรุ่นแรงและรวดเร็ว จนผมไม่สามารถตั้งตัวทัน บอกเลยว่าขึ้นยันหัวเปียกและสดจริง มันคือความสุขระหว่างทางครับ ควาทสุขของคุณแจ๊คและภรรยาในรถ หัวเราะกันใหญ่.. ไปกันต่อครับ เรายังคงขับต่อกันเป็นขบวน 11 คัน ตามกันมาอย่างใกล้ชิด เสียงวิทยุสือสารจากเพื่อนสมาชิกคันหน้าคอยบอกเส้นทางอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ง่ายต่อการขับขี่ และทำให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ในการขับเป็นขบวนวิทยุจึงเป็นสิ่งสำคัญมากเลยทีเดียว
ผ่านไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ตอนนี้เทียงพอดี เราเดินทางมาถึงตัว อ.อุ้มผางแล้วครับ และเราจะแวะพักรถและทานข้าวกลางวันกันที่นี่เลย พร้อมกับหาซื้อเสบียงอาหารเพิ่มเติมจากที่นี่ด้วยเช่นกัน หลังจากทานข้าวเสร็จ เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่ก็จะให้นำหน้าไปก่อน และรอที่หน่วยก่อนทางเข้าน้ำตก เพื่อนสามชิกอีกส่วนก็เข้าไปเตรียมหาซื้อของเพิ่มเติมในตัวอำเภอ จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอกันไปมา เพราะเส้นทางที่เข้าไปตัวน้ำตกค่อนข้างลำบาก เนื่องจากช่วงนี้มีฝนเทลงมาหลายวัน เราอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร
ตอนนี้รถทุกคัน เพื่อนสมาชิกทุกคนมาถึงหน่วยก่อนเข้าน้ำตกทีลอซูแล้ว เส้นทางต่อจากนี้จะเป็นทางลูกรังเข้าไปยังน้ำตกด้านในอีก 26.5 กิโลเมตร และเนื่องจากช่วงนี้มีฝนเทลงมาหนักพอสมควร ทำให้เส้นทางค่อนข้างจะลื่น และเป็นร่องหลุ่มลึก น้ำขังบ้างเป็นช่วงๆ ทำให้ต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ เพราะของที่เราเอาขึ้นมาหลังรถนั้นเยอะและหนักๆกันทุกคัน บวกกับช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวรถนักท่องเที่ยวจะเยอะมากๆ เวลาสวนทางกันในทางแคบต้องระวังกันเป็นพิเศษเลย เพราะถนนลื่นมากๆอาจจะเบียดกันเองได้ ต้องใช้วิทยุสือสารบอกเส้นทางข้างหน้ากันตลอดทาง กว่า 3 ชั่วโมงเราก็มาถึงหน่วยน้ำตกทีลอซูกันครบทุกคันที่นำเข้ามา จะมีอยู่ 1 คันที่จอดอยูที่หน่วยด้านนอกเนื่องจากเป็น 4x2 ไม่เสี่ยงที่จะนำเข้ามาในช่วงฝนตกแบบนี้ ยิ่งตอนเข้ามาถึงสายฝนก็ยิ่งต้อนรับเราหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถที่จะตั้งแค้มป์บริเวณลานกางเต็นท์ได้
เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้เราไปพักตรงบริเวณศาลาใหญ่ ซึ่งก็เป็นจุดที่ดีเอามากๆ ศาลานี้เพียงพอกับสมาชิกเราทั้ง 44 คนได้อย่างพอดี เอาละคืนนี้เรานอนกันที่ศาลานี้ละครับ งั้นเรามาช่วนขนของลงจากรถกันเลย ในช่วงที่กำลังขนของนี้สายฝนก็ยังคงไม่ลดละ ยังเทโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เบาลงกว่าก่อนหน้านี้ เราโชคดีมากๆครับที่ได้ศาลานี้เป็นที่ตั้งแค้มป์ ไม่งั้นผมเองก็นึกสภาพไม่ออกเหมือนกันครับว่าจะเป็นยังไง ขอขอบคุณเจ้าหน้าทีมากๆครับที่ค่อยอำนวยความสะดวกให้กับพวกเรา
พวกเราขนของตั้งแค้มป์เสร็จก็มืดพอดีครับ แสงไฟจากตะเกียงทุกอันที่เรามี เริ่มถูกจุดขึ้นทีละอันๆ เพื่อให้แสงสว่างแทนความมืดที่เงียบสงบตามสไตล์ป่าเขา ตอนนี้เหล่าพ่อครัวแม่ครัวก็ไม่รอช้าครับ เริ่มรังสรรค์อาหารเมนูพิเศษสำหรับเพื่อนสมาชิกในค่ำคืนนี้ อาหารถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันที่ละอย่างๆ พร้อมกับฟังเสียงสายฝนที่ยังคงโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่องเบาๆ บรรยากาศเย็นสบายจนไม่อยากอาบน้ำ แฮร่ๆๆ และเพื่อเพิ่มความอบอุ่น กลุ่มสายปิ้งย่าง ก็เริ่มติดเตาถ่านกันแล้ว เมนูปิ่งย่างก็เริ่มรังสรรค์เป็นอาหารว่างรองท้องให้กับสมาชิกทุกคนไปพรางๆก่อนเช่นกัน และในตอนนี้อาหารมื้อค่ำของเราพร้อมแล้วที่จะเสริฟให้กับเพื่อนๆสมาชิกได้ลิ้มลอง ต้มยำไก่ในคืนนี้เขาบอกกันว่าเด็ดๆ ลืมถ่ายรูปมาให้ดู..แย่จัง
ค่ำคืนนี้สมาชิกนอนกันค่อนข้างเร็วครับ อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่ยาวนานร่วมๆ 17 ชั่วโมง และยาวไกลร่วมๆ 700 กิโลเมตร กับเส้นทางที่คดเคี้ยวและค่อนข้างลำบากในบางช่วง กับทั้งฝนตกตลอดทั้งคืน จะทำอะไรก็คงลำบาก งั้นนอนเลยละกันนะครับ ฝนดีพรุ่งนี้เจอกัน....zzzZZZ
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าที่แสนสดใส และชุ่มฉ่ำ ในเช้าวันนี้เราจะต้องออกเดินทางต่อครับ เพื่อเข้าไปยัง ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านโข๊ะทะ ซึ่งทางเข้าก็อยู่ตรงหน่วยน้ำตกนี้หละครับ ไม่ไกลแล้ว ช่วงนี้ก็ให้สมาชิกได้อาบน้ำ ล้างหน้าล้างตา และรับประทานอาหารเช้ากันก่อน รองท้องกันสักนิด ผมนี้หากาแฟก่อนเลย ช่วงนี้ทานไปก็นั่งคุยกันไปกับเหตุการณ์ต่างๆนาๆของแต่ละคน กับการเดินทางเมื่อวานนี้ มันคงเป็นประสบการณ์ดีๆอีกครั้งที่เราได้สัมผัส พร้อมเสียงเพลงคอยบรรเลงเข้าจังหวะ คุยเพลินอดกินข้าวเหนียวหมูทอดเลย....อร่อยในพริบตาจริงๆ
ช่วงนี้สมาชิกรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ส่วนหนึ่งก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อกิจกรรมสีเหลืองสดใส และเริ่มทะยอยจัดของขึ้นรถเพื่อเตรียมเข้าสู่ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านโข๊ะทะ เส้นทางเข้าจะเป็นทางลูกรังอีกประมาณ 7-8 กิโลเมตร ชาวบ้านและเด็กๆคงรอเรากันแล้ว งั้นคงต้องรีบกันแล้วหละ เพราะด้วยเส้นทางที่ค่อนข้างลำบากและฝนที่ตกเมื่อคืนเราอาจใช้เวลานานกว่าปกติ ลุยครับคนละไม้คนมือ ไม่นานครับของทุกอย่างที่เราเตรียมมาให้ชาวบ้านและเด็กๆ ก็ถูกจัดขึ้นรถเรียบร้อยอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเคลื่อนย้ายเข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย ใครอยากได้บรรยากาศการเดินทางแบบเต็มอิ่มสองข้างทาง กระโดดขึ้นหลังกระบะเลยครับ....
แปดโมงครึ่ง ทุกอย่างพร้อมครับ เราเอารถเข้าไปเพียง 7 คัน อีก 3 จอดไว้ที่นี่น่าจะสะดวกกว่า กับฝนที่ตกเมื่อวานนี้บนเส้นทางเข้าโรงเรียนบางจุดยังคงมีน้ำขังและร่องลึกบาง แต่ก็ไม่มากนัก แต่ก็ยังคงมีจุดพลาดให้เพื่อนสามาชิกเราต้องเหนื่อย ถึงกับต้องมีฉุดกระชากกันอยู่พักใหญ่ แต่ก็ผ่านมาได้อย่างปลอดภัย และคงต้องเพิ่มความระมัดระวังกันให้มากขึ้นต่อจากนี้
ด้วยระยะทาง 7 กิโลเมตร ครั้งนี้เราใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าๆ ประมาณสิบโมง เราก็มาถึงแล้วครับ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านโข๊ะทะ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก คุณครู ชาวบ้านและนักเรียนมารอรับเราแล้วครับ เพื่อนสมาชิกส่วนหนึ่งช่วยกันขนของลงจากรถคนละไม้คนละมือ เพียงพริบตาสิ่งของบริจาคเหล่านั้นก็ลงมาอยู่รวมกันในโรงอาหารเรียนร้อย เราเห็นและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริง ของเหล่าสมาชิกทุกท่าน
เอาละครับงั้นช่วงนี้เรามาแบ่งงาน แบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันดีกว่าครับ ว่าใครจะทำอะไรอย่างไร หน้าที่หลักๆก็จะมี ทีมจัดทำสนามเด็กเล่น ทีมจัดของบริจาค และทีมทำอาหารให้กับเด็กๆและพวกเราด้วยในมือกลางวัน ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบกันแล้ว รออะไร......ทำให้ดีที่สุดแค่นั้นก็เพียงพอ
ในระหว่างที่สมาชิกแต่ละฝ่ายเริ่มทำงาน และเด็กๆรอทานอาหารกลางวัน เราก็มีขนมมาฝากเด็กๆส่วนหนึ่งกันก่อน เด็กๆต่อแถวกันยาวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีใครแย้งและแซงกัน เป็นภาพที่ดูน่ารักมากๆ หลายคนได้ขนมแล้วก็เก็บไว้ก่อน หลายคนก็แกะทานเลยอย่างไม่รอช้า เราก็หวังว่าจะถูกปากเด็กๆกันนะ
ตอนนี้ก็มาถึงช่วงของเหล่าสมาชิกกันแล้ว ตามแผนงานที่ได้รับมอบหมาย กลุ่มใหญ่ที่เป็นผู้ชายร่างกายบึกบึนแข็งแรง ดูทนแดดทนฝน ได้เริ่มบรรเลงเสริมสร้างและปรับปรุงสนามเด็กเล่นใหม่ ให้ดูสีสันสดใสสวยงาม น่าเล่นมากขึ้น โดยได้นำยางรถยนต์ที่ได้รับบริจาคมาทาสีใหม่ และออกแบบวางในจุดที่ได้เตรียมพื้นที่ไว้ ในส่วนของเล่นที่มีอยู่แล้วก็ได้ทำการทาสีใหม่เช่นกัน เพื่อให้ดูน่าเล่นมากขึ้น ส่วนนั้นไม่ยากเย็นนัก แต่ยางรถยนต์ต้องใช้เรี่ยวแรงพอสมควรในการจัดวาง เพราะต้องขุดดินปรับพื้นที่กันยกใหญ่ เพื่อที่จะวางเล่นได้อย่างลงตัว งานนี้วิศกรมากันเพียบครับ แต่ก็ถือว่างานออกได้ได้อย่างน่าพอใจ มันอาจจะไม่ได้ใหญ่โตและดูดีมีราคามากมายอะไร แต่ด้วยแรงกายและความตั้งใจเต็มเปี่ยมที่พวกเราอยากมอบให้ เราจึงภูมิใจในสิ่งที่เราทำอยู่เบื่องหน้า และก็แอบหวังว่าน้องๆ เด็กๆ จะได้ใช้และเล่นมันบ้างสักนิดก็ยังดี....
ข้ามไปในส่วนของการจัดของบริจาค ส่วนนี้ก็ทำหน้าที่กันอย่างขะมักเขม้นไม่แพ้กัน ของบริจาคต่างๆ ชุดเครื่องเขียนจำนวน 100 ชุด ถูกจัดใส่ถุงอย่างอย่างตั้งใจทุกชิ้น เพื่อหวังว่าเด็กๆ จะได้ใช้ประโยชน์มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ของทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นสัดส่วน พร้อมสำหรับเด็กๆทุกคนที่นี่ ในส่วนของยาสามัญประจำบ้านขอบคุณทีมงาน รพ.ผักให่ ที่จัดการบรรจุใส่กล่องมาให้เรียบร้อย พร้อมที่จะมอบให้กับชาวบ้านทันทีเช่นกัน และของบริจาคอื่นๆอีกมากมายจากผู้ใจบุญทุกๆท่านที่ส่งมาให้ทางโรงเรียนและเด็กๆ
- เครื่องชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง 2 ชุด
- แบตตาเลี่ยนตัดผม 2 ชุด
- เสื้อผ้า เด็กๆ
- ร้องเท้าแตะสำหรับเด็ก
- ถุงเท้า 150 คู่
- อาหารแห้ง ขนมต่างๆ
- อื่นๆๆ
แอบย่องเข้าไปในส่วนของห้องครัว แว๊บแรก โอ้วโห นั้นลูกชิ้นหม้อใหญ่มากๆ งานนี้พ่อครัวแม่ครัวจัดเต็มที่เพื่อเด็กๆเลยหละ ผมมองไปรอบๆในครัวนี้ฟินสุดละครับ ทุกคนแลดูร่าเริง 5555"""" งานในครัวก็ดูเรียบร้อยและก็พร้อมแล้วเช่นกันครับ สำหรับอาหารมือกลางวัน ที่จะมอบความอิ่มท้องแกเด็กทุกๆคนที่นี่.....
ทางครัวแจ้งมาว่า อาหารกลางวันสำหรับเด็กๆพร้อมแล้วนะ และตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้วด้วย เด็กๆคงหิวกันแย่เลย งั้นเรามาทำให้น้องหายหิวและอิ่มท้องกันดีกว่าครับ เด็กๆมายืนเรียงแถวแล้ว อย่างเป็นระเบียบเชียวหละ มาม่า ใส่หมูสับ ลูกชิ้น ถูกลำเรียงส่งออกมาเป็นทอดๆ คนนึงเอาเส้นมาม่าใส่ชาม คนนึงตักหมูสับใส่ตามลงไป อีกคนบีบเครื่องปรุงลงไปนิดหน่อย แล้วส่งต่อไปยังมือตักลูกชิ้นนุ่มๆ ตามด้วยน้ำซุบแสนอร่อยเทลงไปอย่างช้าๆไม่รีบร้อน
( เพราะเทเร็วไปมือเราอาจจะร้อนได้ 5555) กลิ่นน้ำซุบช่างหอบหวนเหลือเกินครับ เตะจมูกผมมากเลย เมื่อน้ำซุบเข้ากันกับเส้นมาม่าแล้ว ก็ส่งมอบถึงมือเด็กๆ ทีละชามๆ อย่างตั้งใจ เด็กๆ ดูนอบน้อมและรับถ้วยมาม่าจากมือผู้ให้อย่างช้าๆ
(คือแบบว่ามันร้อนอะพี่) บางคนยกมือไหว้ขอบคุณ บางคนสบตาเพื่อขอบคุณ บางคนยิ้มเพื่อขอบคุณ มันอิ่มอกอิ่มใจเมื่อเรามอบให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เด็กๆแต่ละคนถือถ้วยมานั่งทานด้วยกัน บางคนก็ถือแยกไปคนละมุม นั่งทานจนหมดชามจนต้องไปต่อแถวใหม่ ... แบบนี้แม่ครัวยิ้มแป้นเลย แสดงว่ามันอร่อยมากๆ จริงๆ เราดูจากเด็กๆ ที่นั่งกินแล้วก็พอจะรู้เลยละว่าอร่อยสุดๆไปเลยพี่จ๋า
หลักจากที่น้องๆอิ่มท้องกันแล้ว เราก็ยังมีสิ่งของต่างๆ มามอบให้กับเด็กทุกๆคน หลักๆก็จะเป็นชุดเครื่องเขียนอุปกรณ์การเรียน คนละ 1 ชุด จำนวนทั้งหมด 100 ชุด สำหรับชาวบ้านก็จะเป็นชุดยาสามัญประจำบ้านครัวเรือนละ 1 ชุด จำนวน 70 ชุด ในส่วนของบริจาคอื่นๆ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง แบตตาเลี่ยนตัดผม เสื้อผ้าเด็กๆ ร้องเท้าแตะ อาหารแห้งขนมอื่นๆ เราจะมอบให้กับทางโรงเรียน โดยมอบให้คุณครูเป็นผู้จัดการต่อไป สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเราช่วยกันรวบรวมคนละนิดคนละหน่อย คนละไม่คนละมือ ด้วยสองมือที่เรามี และพอที่จะทำได้ แต่เราก็ดีใจมากๆ ที่เป็นส่วนหนึ่ง และทำให้วันนี้เป็นวันที่เด็กๆที่นี่ดูมีความสุข มีสิ่งดีๆผ่านเข้าไปในชีวิตของพวกเขา ซึ่งมันก็อาจจะผ่านแล้วก็ผ่านไป แต่สำหรับพวกเรามันจะเป็นวันหนึ่ง ที่จะไม่ลืมหายไปอย่างเด็ดขาด
วันนี้ทุกอย่างที่เราตั้งใจทำ ถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มันคือความภูมิใจที่พวกเราได้มาร่วมทำกิจกรรมดีๆด้วยกัน ต่างคนต่างที่มา แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่เรามีเหมือนกัน ส่วนนั้นบ่งบอกแล้วในกิจกรรมครั้งนี้ คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก จดจำสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นวันนี้ แล้วเมื่อเจอกันครั้งหน้า มานั่งคุยเล่าความหลังกัน....
ก่อนกลับเด็กๆที่นี่น่ารักมากครับ มาร้องเพลงขอบคุณพวกเราก่อนเดินทางกลับ ทุกอย่างจะดูดีมากๆครับ ถ้าพี่ๆหยุดเถอะ หยุดตบมือ 5555 ขอบคุณน้องๆมากครับ ที่ตั้งในร้องเพลงให้พวกเราฟัง และถ้ามีโอกาสเราคงได้มาเยี่ยมเยียนกันอีกครั้ง
ตอนนี้บ่ายโมงครึ่ง กิจกรรมทุกอย่างที่เราตั้งใจนั้นก็สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว คงถึงเวลาที่เราจะต้องลาจากที่นี่แล้ว เส้นทางออกทางเดิมครับ ใช้เวลาประมาณ 1 โมงเราก็ออกมาถึงหน่วยตรงน้ำตกทีซอซูครับ..
กิจกรรมสำเร็จหมดแล้วครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อนกันบ้าง ช่วงบ่ายนี้หลังจากออกมาจาก ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านโข๊ะทะ เก็บข้าวของกันเรียบร้อยก็ได้เวลาไปชื่นชม ความสวยงามของน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่กลอง อลังการแห่งสายน้ำกลางป่าเขา
"น้ำตกทีลอซู" คำว่า ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่า
"น้ำตกดำ" ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชันมีน้ำไหลแรงตลอดปีความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆมีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์
เส้นทางเดินไปยังน้ำตกทีลอซูจากจุดกางเต็นท์ จะเป็นทางคอนกรีตเดินสบายครับ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เดินไปเรื่อยๆสักครึ่งชั่วโมงก็ถึงครับ จากนั้นเราก็จะพบกับความอลังการของน้ำตกทีลอซูที่ยิ่งใหญ่สมคำล่ำลือครับ...
ในคืนนี้ฟ้าฝนเป็นใจครับ พวกเราออกมานั่งเล่นด้านนอกได้แล้ว บรรยากาศแสนดีท่ามกลางแสงไฟอุ่นๆจากตะเกียง กับมิตรสหายเพื่อนเดินทางดูอบอุ่นนัก เตาถ่านถูกจุดมาอีกครั้ง แน่นอนคืนนี้คงมีปิ้งย่างกันแน่ๆๆ ปลาหมึกสดถูลำเรียงมาจัดวาง ตามด้วยกุ้งสด หมูชิ้นโตๆ ก็ตามมาติด ๆ แต่ผมนี้หยิบปลาหมึกแห้งมาย่างก่อนเลย อยากกินจุง.. หันมองขึ้นไปด้านบนศาลา เหล่าพ่อครัวแม่ครัวคืนนี้ยังคงรังสรรค์เมนูแสนอร่อยให้พวกเราได้ลิ้มลองอีกเช่นเคย เมนูอาหารเริ่มทะยอยออกมาทีละอย่างสองอย่าง พร้อมจัดเรียงเป็นวงกลม ให้พวกเราล้อมวงนั่งทานกัน ค่ำคืนนี้เป็นบรรยากาศที่แสนดีอีกคืนหนึ่งเลยที่เดียว ทุกอย่างดูเรียบง่าย เป็นบรรยากาศที่สบายๆ ผ่อนคลายด้วยเสียงเกากีต้าเบาๆ จากหนุ่มร่างท้วมผู้อบอุ่น ผสานเสียงขับร้องจากหญิงสาวที่ตามหาความรัก ฟังนุ่มสบายหู คืนนี้อยู่ดึกกันหน่อยครับ บรรยากาศมันพาไปและเรื่องเล่าที่ผ่านมามันมากมายนัก คุยกันเพลินปากเพลินหู แต่เรื่องเล่าของคืนนี้สิ ดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่า มันเกิดขึ้นในยามดึก ในตอนที่ตะเกียงถูกดับลงแล้ว แสงไฟถูกแทนด้วยความมืดสนิท...... ไม่อยากเล่าต่อมันขนลุก เงานกบินหน้าเต็นท์ยังคงหลอกหลอนมาถึงทุกวันนี้.... ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ
อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ที่สดใส เรื่องเล่าจากเมื่อคืนยังคงเงียบ แต่ก็มีเสียงแว้วๆ เมื่อคืนใครเดินรอบเต็นท์ ..... พักไว้แค่นี้ก่อน เช้านี้บรรยากาศแสนดีเย็นสบายจัง ออกจากเต็นท์มาสูดอากาศให้เต็มปอดกันดีกว่า เช้านี้ทุกอย่างดูเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนนัก นั่งเล่นพักผ่อน ดื่มกาแฟอุ่นๆ พร้อมกับอาหารเช้าแบบง่ายๆ ข้าวต้ม หัวไชโป้วผัดไข่ เข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม หรือจะไข่ดาวสุกๆดิบๆ เราก็มีให้เลือกสรรค์ เวลาเดินไปเรื่อยๆ ใกล้เวลาที่พวกเราต้องเก็บข้าวของกลับบ้านกันแล้ว เวลาแห่งความสุขและความสนุกยังคงอยู่ ไม่ได้ผ่านไปไหน ผ่านมาแล้วต้องไม่ผ่านไปเก็บมันไว้ให้ดีๆหละ
เราคงต้องเดินทางกลับกันจริงๆแล้วสินะ อยากอยู่ต่ออีกสักคืนจัง ยังไม่อยากกลับเลยครับ งั้นก่อนกลับขอเก็บภาพรวมของพวกเราไว้สักหน่อยดีกว่า นั้นป้ายน้ำตกทีลอซู ใหญ่โตมากมาย ไปถ่ายรูปรวมกันตรงนั้นดีกว่าครับ ถ่ายอยู่หลายใบจนได้ภาพที่พอใจละ ขอบคุณป้ายอันใหญ่โต ที่ทำให้พวกเราได้มาอยู่ใกล้กันอีกครั้งก่อนกลับ ถ้ามีโอกาสเราคงได้มาเยือนที่นี่อีกครั้งนะ "น้ำตกทีลอซู" ที่สุดของความอลังการแห่งสายน้ำกลางป่าลึก เส้นทางออกยังคงไม่ต่างจากตอนแรกที่เราเข้ามามากนัก แต่ดีขึ้นมาหน่อยเพราะฝนหยุดตกแล้ว ใช้เวลาไม่นานนักเราก็ออกมาถึงหน่วยด้านนอก เช็ครถเช็ความพร้อมกันสักพัก เราก็ออกเดินทางต่อกันเลย มุ่งหน้า บ้านใครบ้านมัน แต่ยังคงไปเส้นทางเดียวกันอยู่นะ จนถึง กทม.
กิจกรรมดีๆเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยครับ ถ้าไม่มีเพื่อนสมาชิกร่วมทางที่ดีเราขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกร่วมทางทั้ง 44 ท่าน ที่ได้สละเวลามาช่วยกันสร้างสุขให้กับเด็กๆ และความสุขนั้นมันก็ย้อมกลับมาหาพวกเราด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกๆท่าน ที่ร่วมกันบริจาคสิ่งของต่างๆมากมาย ของทุกชิ้นส่งตรงถึงมือเด็กๆ และโรงเรียนเรียบร้อยครับ
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วย ที่ค่อยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพวกเรา
ขอบคุณศาลาหลังใหญ่ที่ให้เราได้หลบฝนในคืนนั้น
ขอบคุณกลุ่มกาลครั้งหนึ่งที่ทำให้พวกเราได้มาพบกัน
ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในกิจกรรมครั้งนี้
การเดินทางจาก อ.แม่สอดให้เราใช้เส้นทางหลวง 1090 เป็นทางราดยางลัดเลอะไปตามไหล่เขา ถึง อ.อุ้มผาง รวมระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ช่วงก่อนถึงตัว อ.อุ้มผาง จะมีทางแยกขวามือ ช่วงหลักกิโลที่ 161 ให้ขับไปตามทางเรื่อยอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดตรวจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จากนั้นจะเป็นทางลูกรังอีก 26.5 กิโลเมตร ก็จะถึงหน่วยน้ำตกทีลอซู
ส่วนทางเข้า ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านโข๊ะทะ จะมีทางแยกซ้ายก่อนถึงหน่วยน้ำตกทีลอซูประมาณ 100 เมตร เป็นช่วงโค้งขวาพอดี จุดนั้นจะมีป้ายบอกทางเข้าอยู่ด้านซ้าย เป็นทางลูกรังเช่นกันอีก 7 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านโข๊ะทะ
อช.อุ้มฝาง 08-8427-5272
คุณครู 06-1347-1562