แม่น้ำน้อย อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เมื่อเราพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี ผมเชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกันอย่างดี เพราะที่นี่ขึ้นเชื่ออยู่แล้วในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และประวัติศาสตร์ต่างๆที่ลือลั่นมาช้านาน ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย สามารถสะกดจิตให้ผู้คนหลังไหลเดินทางมาสัมผัสได้ตลอดทั้งปี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่โอบกอดด้วยป่าเขาอันกว้างใหญ่ และตั้งอยู่ไม่ไกลมากนักจากกรุงเทพ กาญจนบุรีจึงเป็นที่แรกๆที่หลายคนนึกถึง พวกเราเองก็เช่นกัน
“เริ่มรู้สึกได้กลิ่นไอของป่าเขาขึ้นมาแล้วสิครับ” ในการเดินทางครั้งนี้นอกจากเราจะเดินทางไปแม่น้ำน้อยแล้ว เรายังได้เตรียมสิ่งของต่างๆ ทั้งขนม อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ไปมอบให้กับเด็กๆที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี ต.บองตี้ อ.ไทรโยค และถวายเทียนเข้าพรรษา พร้อมสิ่งของบางส่วนให้กับทางวัดป่าแม่น้ำน้อยด้วย ก่อนที่เราจะเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศตั้งแค้มป์ริมแม่น้ำน้อยกลางป่าลึก
ลองนึกภาพตามกันเลย เพราะเรากำลังจะเริ่มออกเดินทางกันแล้ว
กลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 1/7/59 พวกเราสมาชิก 24 คน กับปีกนก 10 ตัว ได้รวมตัวกันก่อนที่ปั้มแห่งหนึ่งแถวนครชัยศรี จ.นครปฐม และก็มีนัดเจอกันที่ไทรโยคอีก 4 ท่าน พร้อมรถอีก 2 คัน ช่วงนี้ก็กำลังเข้าหน้าฝนพอดี ระหว่างรอสมาชิกฝนก็เทลงมาเรื่อยๆเลย ประมาณเที่ยงคืนตีหนึ่งสมาชิกเราก็มาพร้อมกันแล้ว พูดคุยแนะนำเส้นทางกันสักพักเราก็เริ่มออกเดินทางสู่ไทรโยคกันเลย ถึงก่อนไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปแวะพักนอนกันที่ปั้มไทรโยคกันก่อน
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า สมาชิกค่อยๆออกมาจากรถที่ละคนสองคนเพื่อทำภารกิจส่วนตัว ไม่นานสมาชิกทุกคนก็พร้อมออกเดินทางต่อ ในช่วงเช้านี้เราจะต้องนำสิ่งของต่างๆที่รับบริจาคมาไปมอบให้กับเด็กๆที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี นั้นคือภารกิจหลัก แต่ก่อนไปโรงเรียนเราขอแวะทานข้าวเช้า และซื้อเสบียงเพิ่มเติมกันก่อนในตัวอำเภอไทรโยค และอย่างที่เราบอกไว้ข้างต้นว่าเมืองกาญนี้แหล่งท่องเที่ยวเยอะเหลือเกินครับ ไม่ไกลจากที่เราทานข้าวมากนัก ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่อยากแนะนำเพื่อนๆให้ลองมาสัมผัสกันครับ นั้นคือ
ถ้ำกระแซ ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิวที่มีรถไฟวิ่งผ่านริมหน้าผา และอีกฝั่งก็จะเป็นแม่น้ำแคว บอกเลยว่าต้องประทับใจ ถ้ามาเมืองกาญ ใครไม่มาดูมาเห็นเองกับตา ถือว่าพลาดครับ ตรงนี้ต้องขอบคุณน้าหมูที่ร้องไห้งอแงอยากมาเห็นครับ เลยทำให้พวกเราได้ชื่นชมไฮไลท์สำคัญของเมืองกาญ
เอาละครับรู้สึกตอนนี้เริ่มสายแล้วละครับ เราคงต้องออกเดินทางมุ่งหน้าไปโรงเรียนกันสักที ซึ่งโรงเรียนก็อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนักครับ สัก 20 กว่ากิโลได้ ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงโรงเรียน เด็กๆและคุณครูมารอเราอยู่แล้วครับ ไม่รอช้าสมาชิกเริ่มทะยอยขนของต่างๆ ลงจากรถทีละคันๆ จนหมดและพร้อมที่จะมอบให้กับน้องๆแล้ว สิ่งของที่เรานำมาก็จะเป็นพวก อุปกรณ์การเรียนต่างๆครับ อาหารแห้ง ขนม ยารักษาโรค ตุ๊กตา ฯลฯ ของเหล่านี้อาจจะไม่ได้มากมายนัก แตพวกเราก็เต็มใจมามอบให้น้องเต็มที่ครับ หวังว่าเด็กๆคงชอบกันนะ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆท่านเลยนะครับ ที่ร่วมกันสมทบทุนในการมามอบของให้กับเด็กๆในครั้งนี้ โดนเฉพาะน้องต้น น้องนัท พร้อมเพื่อนๆที่เป็นแกนหลักในการบริจาคของในกิจกรรมครั้งนี้ ก่อนกลับลาจากกัน ก็ขอเก็บภาพหมู่กับน้องๆและคุณครูไว้ดูยามเหงากันสักหน่อยครับ
เอ้าๆ 1 2 3 แซ๊ะ... ตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่าๆได้ กิจกรรมต่อไปของเราก็คือถวายเทียนพรรษา ที่
"วัดป่าแม่น้ำน้อย" ครับ จากตรงนี้ไปก็คงใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ เนวิเกเตอร์ หมูร้อยโลเช็คเส้นทางแล้ว น่าจะไม่มีปัญหามากนัก น่าจะพอๆๆดึงๆกันได้ แล้วก็มีดึงกันจริงๆ เนื่องจากรอน้องอั้มเป็นยางธรรมดา บวกกับดินค่อนข้างแข็งและลื่น งานนี้เลยต้องมีฉุดกระชากลากดึงกันนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ เนินนี้เป็นการเตือนเบาๆว่า กลับไปจากทริปนี้ต้องทำอะไรสักอย่างกับสหายคันนี้แล้วละ เรามาถึงวัดเกือบๆบ่ายสองโมง วันนี้ไม่มีพระจำวัดอยู่เลย เราจึงฝากของต่างๆ ไว้กับลูกศิษย์วัดไว้ แล้วก็ไหว้พระสวดมนต์กันนิดหน่อยเพื่อเป็นศิริลงคลแก่พวกเราทุกคน
เราอยู่ที่วัดนี้กันประมาณสักครึ่งชั่วโมง ก็เตรียมตัวเดินทางออกจากวัด เพื่อไปจุดแค้มป์ของเรากัน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดมากนัก ขับออกไปทางเดิมครับ แต่การกลับออกไปรู้สึกว่าจะไม่ง่ายเหมือนตอนเข้ามาแล้วสิครับ เจอดินหนังหมูเข้าให้ ยางเดิมๆ เรียบร้อยครับจอดสนิทที่เนินนี้ บางคันก็ขึ้นไปได้หลายคันอยู่ครับ เราจึงเปลี่ยนเส้นทางสำหรับรถบางคันที่ยังไม่ได้ขึ้นมา ย้อนกลับไปนิดหน่อยจะมีแยกไปอีกเส้นทางหนึ่ง มีชาวบ้านแนะนำเรามา รถที่อยู่ด้านล่างจึงแยกไปด้านนั้น ซึ่งทางนี้ไม่ยากมากครับ ยางเดิมๆผ่านได้สบายๆ แต่ต้องเป็น 4x4 นะครับ มีผ่านธารน้ำด้วย ไม่นานเราก็มาถึงจุดนัดพบซึ่งทีมผมที่มาทางลัดถึงก่อนและรออยู่พักใหญ่ อีกทางที่นำโดยน้าหมูก็ยังไม่มาถึง เสียงวิทยุสื่อสารทำให้เรารู้ว่าอีกทีมเหมือนจะงานเข้า เรานำทีมเข้าไปดู ไม่นานก็เจออีกทีมกำลังเล่นสนุกกันเลยครับ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส่ ตรงนี้เป็นช่วงที่ 2 เส้นทางค่อนข้างลื่น รถไหลออกนอกไลท์กันทุกคัน จึงต้องออกแรงกันหน่อยช่วยประคองพอถึงจุดปลอดภัยจึงค่อยเร่งกำลังขึ้นเนินไป และก็สามารถผ่านไปได้ทุกคันแต่ก็จะเหนื่อยกันหน่อย
กว่าจะหลุดออกมาได้ใช้เวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมงกับระยะทางเพียง 2 กิโลเมตร ถึงตอนนี้แล้ว ใครจะอัปอะไรก็รีบทำนะครับ
แค้มป์เราต้องข้ามน้ำ 2 ธารครับ จากปากทางเข้าวัด เลี้ยวขวาออกมานิดเดียวก็จะเจอธารแรก พอข้ามธารแรกก็วิ่งออกไปทางซ้าย ไม่ไกลก็จะเจออีก 1 ธาร ขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ถึงแค้มป์ของเราในคืนนี้..
ตอนนี้เราถึงแค้มป์กันสักพักแล้วครับ "แต่เอ๊ะ" รถเรามีกันกี่คัน? หันซ้าย หันขวา เหมือนมันจะขาดๆหายๆไปคันนึงรึป่าว เอาแล้วไง วุ่นเลยที่นี้ แต่ยังโชคดีที่ผมเปิดวิทยุสื่อสารไว้ เพื่อนเราคันนี้ก็คงอยู่ไม่ไกลจากเรานี้และครับ ผมจึงอาสาออกไปตามเอง แล้วเราก็ไปเจอคันนั้นจอดเหงาอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ธารแรก กับเวลาเย็นๆแบบนี้น้องก๊อปคงชิลหน้าดู 555 ส่งสัญญาณให้น้องก๊อปขับข้ามมา และก็ตามมาสมทบที่แค้มป์จนครบทุกคันและทุกคน เรามาถึงค่อนข้างช้าเพราะผิดแผนไปหน่อยจากการเดินทาง คงต้องรีบตั้งแค้มป์กันหน่อย เหล่าพ่อบ้านก็จัดการกางเต็นท์เรื่องที่พัก ส่วนแม่บ้านก็จัดแจงรังสรรค์เรื่องอาหารการกิน มื่อนี้คงเป็นมื้อที่อร่อยอีกมื้อแน่ๆ เพราะทริปนี้เราได้แม่ครัวแสนสวย และตัวพ่อครัวมือดีนำโดยพี่วุฒิ บอกเลยว่าเด็ดทุกเมนู
(ว่าแต่สูตรในขวดกลมนั้นมันมีอะไรมั้งนะ ช่างหอมหวนเหลือเกิน)แค้มป์เราครั้งนี้ค่อนข้างดีเลยที่เดียวครับ เพราะตั้งติดแม่น้ำน้อยเลย เอาละ เหนื่อยกันมาพอสมควร มานั่งดื่มด่ำแช่น้ำเย็นๆ ให้สบายใจกันดีกว่า ปิ่งยางกันริมแม่น้ำเลย ความสุขแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ ต้องรีบตักตวงเก็บเอาไว้ คืนนี้อยู่กันจนดึกพอสมควรเลย ก็บรรยากาศมันพาไปนี่นา คุยไปคุยมาจนเพลิน และแล้วก็มีคนเล่าเรื่องลี้ลับให้ฟังอีกจนได้ ป๋ามืดเมื่อก่อนแกเข้าป่าบ่อย และแกก็เจออะไรมากมาย แกก็มาเล่าให้พวกเราฟังตอนประมาณห้าทุ่ม ทุกอย่างแลดูเงียบ บรรยากาศได้พอดีครับ
ทีแรกก็คิดว่าขนลุกเพราะหนาว แต่ไม่ใช่ละ... ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ เจอกันตอนเช้า
บรึ้ยยยยย......อรุณสวัสดิ์ยามเช้า เช้านี้บรรยากาศดีเหลือเกิน กลิ่นไอธรรมชาติกลางป่าใหญ่นี้ช่างสดชื่นเกินบรรยาย สูดได้เต็มปอด แต่เอ๊ะเจ้าติน ทำไมร้องไห้แต่เช้าเลย ไม่ใช่สิ ร้องทั้งคืนตั้งแต่ตีหนึ่ง กลางป่าลึกมีอะไรลี้ลับเสมอครับ ... วันนี้เราคงต้องกลับกันแล้ว เวลาสนุกๆแบบนี้ผ่านไปเร็วเสมอ เช้านี้ไม่มีอะไรมากๆครับ อาหารง่ายๆ กาแฟสักแก้ว พอแล้ว เกือบๆสิบโมงเราจึงออกจากจุดแค้มป์ เที่ยวกลางป่าแบบนี้ อย่าลืมเก็บขยะออกมาด้วยนะครับ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า....
"กาลครั้งหนึ่ง.. เราจะพบกับใหม่"ขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกๆท่านครับ ทั้งใหม่แกะกล่อง และเก่าฝุ่นเกาะน้าหมู เต้ย พี่หนุน พี่อ้อน ก๊อง พีต้น พี่ชา พี่เบียร์ น้องติน ต้นเซฟ ...... นัท อั้ม นัท ก๊อป อุ้ม มิน บี โจ้ เก็บออม พี่วุฒิ แบงค์ หวาน พี่เกรียง กบ พี่มืด
ขอบคุณภาพสวยๆจากเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับ
น้องนัท ผู้ Alert ในการถ่ายภาพ
ท่านเต้ย ช่างภาพสายเมา
พี่ต้น ฝากถ่ายวีดิโอด้วย
กบ ช่างภาพสายบุญ (เราเขียนเอง ต้องดูดีไว้ก่อน)การเดินทางโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี จากอำเภอไทรโยคใช้เส้นทาง 6018 เส้นทางอำเภอไทรโยค – ลำสมอ ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ลักษณะเป็นทางลาดยาง
การเดินทางไปแม่น้ำน้อย ให้ใช้เส้นทางหมายเลย 323 ผ่าน น้ำตกไทรโยคน้อย ไปถึงประมาณหลังกิโลเมตรที่ 148 ให้สังเกตุจะมีทางเข้าทางซ้ายมือ เป็นทางราดยาง ถนนหมายเลย 3090 ขับไปสักพักเราจะเจอแยกขวามือ เป็นทางโค้งพอดีครับ เข้าไปสักพักเราก็จะเจอด่านตรวจแม่น้ำน้อยครับ เราต้องแลกบัตรที่นี่ครับ
ภาพบางส่วนจากการเดินทาง